โรคยอดฮิตของคนทำงานออฟฟิศ
วันที่ : 29/04/2010 จำนวนผู้ชม : 1
เคยมีอาการแบบนี้กันบ้างไหม????
ทั้งที่ไม่ได้ทำงานที่ต้องออกแรงยกของหนักๆ แต่ทำมั้ย ทำไมถึงมีอาการปวดเมื่อยตาม คอ บ่า และไหล่!! ขอบอกว่า...อาการแบบนี้เป็นโรคยอดฮิตของคนทำงาน "ออฟฟิศ" ที่มีพฤติกรรมการเคลื่อนไหวร่างกาย "ไม่ถูกต้อง"
ในงานเปิดตัวศูนย์บำบัดสุขภาพและความงามอย่างครบวงจรเปี่ยมสุขภาพ ได้ผู้เชี่ยวชาญนักกายภาพบำบัด อรพินท์ จิตตวิสุทธิกุล มาเผยเคล็ดลับในการผ่อนคลายกายและใจว่า สุขภาพกายเป็นสิ่งสำคัญ การเคลื่อนไหวร่างกายไม่ถูกต้องจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ปัญหาที่พบเยอะที่สุดคือ อาการปวดเมื่อยตามแขน บ่า ไหล่ คอ ซึ่งเกิดท่านั่งในการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ไม่ถูกต้อง ปัญหารองลงมาคือ ปัญหาเท้าแบน ซึ่งปกติเท้าคนขณะยืน ผ่าเท้าต้องโค้ง ปัญหานี้ถ้าใครเป็น จะส่งผลให้ระบบการทรงตัวของร่างกายมีปัญหา เปรียบกับฐานรากถ้าไม่ดีทุกอย่างจะเสียทั้งหมด เข่าจะบิด ปวดหลัง ปวดสะโพก และมีโอกาสปวดได้ทั้งตัว
"ถ้าใครมีอาการปวดเมื่อย แนะนำให้แก้ไขด้วยตนเอง ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมท่านั่ง ยืน ให้ถูกต้อง เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ไม่ควรนั่งชิดจอมากเกินไป เพราะจะทำให้ไหล่ยก กล้ามเนื้อคอเกร็งตลอดเวลา ซึ่งนี่แหละคือสาเหตุของอาการปวด ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง คือ ต้องให้จอคอมพิวเตอร์อยู่ระดับสายตา ไหล่ไม่ยกปล่อยสบายๆ หลังตรง ลักษณะการจัดเม้าส์ต้องไม่ให้ข้อมือลากกับพื้นโต๊ะ ความสูงของเก้าอี้สูงพอดีกับขาท่อนล่าง ขาห้ามลอย"
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด ยังแนะถึงวิธีการยืนที่ถูกต้องว่า การยืนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้ายืนผิดท่าผิดทางก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดเมื่อยได้ โดยเฉพาะอาการปวดหลัง โดยขณะยืน อย่ายืนงอเข้าสองข้าง และทิ้งน้ำหนักไปที่ปลายเท้า หรือส้นเท้าอย่างเดียว การยืนควรยืนแขม่วท้องเล็กน้อย และทิ้งน้ำหนักตรงกลางเท้า ส่วนใครที่มีปัญหาเท้าแบน แก้ปัญหาโดยการออกกำลังกาย หรือนำแผ่นรองเท้าคุณภาพดีมาเสริมใส่เข้าไปในรองเท้าก็จะช่วยได้ระดับหนึ่ง
นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายให้ถูกวิธีแล้ว ควรทำจิตใจและร่างกายให้ผ่อนคลายอยู่เสมอ อย่าเครียดมาก เพราะถ้าเครียดร่างกายทุกส่วนจะเกร็ง เมื่อเกร็งมากๆ จะเกิดการสะสมและอาการปวดเมื่อยจะตามมาในที่สุด สำหรับใครที่ไม่มีเวลาผ่อนคลายความเครียด มีวิธีผ่อนคลายบ่าและไหล่บนรถง่ายมาแนะนำ ด้วยการ 1.กดหัวไปกับพนักพิงแรงๆแล้วค้างไว้ 10 วินาที แล้วปล่อย ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง 2.กดปลายบ่าลง แล้วค้างไว้ 10 วินาที แล้วปล่อย ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง เพียงเท่านี้ก็ลดอาการเมื่อยล้าลงได้
ถ้าไม่อยากมีปัญหาจุกจิกกวนใจจากอาการเมื่อยล้าต่างๆ การดำเนินชีวิตด้วยจิตใจและร่างกายที่ผ่อนคลาย ดูจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ทั้งที่ไม่ได้ทำงานที่ต้องออกแรงยกของหนักๆ แต่ทำมั้ย ทำไมถึงมีอาการปวดเมื่อยตาม คอ บ่า และไหล่!! ขอบอกว่า...อาการแบบนี้เป็นโรคยอดฮิตของคนทำงาน "ออฟฟิศ" ที่มีพฤติกรรมการเคลื่อนไหวร่างกาย "ไม่ถูกต้อง"
ในงานเปิดตัวศูนย์บำบัดสุขภาพและความงามอย่างครบวงจรเปี่ยมสุขภาพ ได้ผู้เชี่ยวชาญนักกายภาพบำบัด อรพินท์ จิตตวิสุทธิกุล มาเผยเคล็ดลับในการผ่อนคลายกายและใจว่า สุขภาพกายเป็นสิ่งสำคัญ การเคลื่อนไหวร่างกายไม่ถูกต้องจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ปัญหาที่พบเยอะที่สุดคือ อาการปวดเมื่อยตามแขน บ่า ไหล่ คอ ซึ่งเกิดท่านั่งในการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ไม่ถูกต้อง ปัญหารองลงมาคือ ปัญหาเท้าแบน ซึ่งปกติเท้าคนขณะยืน ผ่าเท้าต้องโค้ง ปัญหานี้ถ้าใครเป็น จะส่งผลให้ระบบการทรงตัวของร่างกายมีปัญหา เปรียบกับฐานรากถ้าไม่ดีทุกอย่างจะเสียทั้งหมด เข่าจะบิด ปวดหลัง ปวดสะโพก และมีโอกาสปวดได้ทั้งตัว
"ถ้าใครมีอาการปวดเมื่อย แนะนำให้แก้ไขด้วยตนเอง ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมท่านั่ง ยืน ให้ถูกต้อง เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ไม่ควรนั่งชิดจอมากเกินไป เพราะจะทำให้ไหล่ยก กล้ามเนื้อคอเกร็งตลอดเวลา ซึ่งนี่แหละคือสาเหตุของอาการปวด ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง คือ ต้องให้จอคอมพิวเตอร์อยู่ระดับสายตา ไหล่ไม่ยกปล่อยสบายๆ หลังตรง ลักษณะการจัดเม้าส์ต้องไม่ให้ข้อมือลากกับพื้นโต๊ะ ความสูงของเก้าอี้สูงพอดีกับขาท่อนล่าง ขาห้ามลอย"
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด ยังแนะถึงวิธีการยืนที่ถูกต้องว่า การยืนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้ายืนผิดท่าผิดทางก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดเมื่อยได้ โดยเฉพาะอาการปวดหลัง โดยขณะยืน อย่ายืนงอเข้าสองข้าง และทิ้งน้ำหนักไปที่ปลายเท้า หรือส้นเท้าอย่างเดียว การยืนควรยืนแขม่วท้องเล็กน้อย และทิ้งน้ำหนักตรงกลางเท้า ส่วนใครที่มีปัญหาเท้าแบน แก้ปัญหาโดยการออกกำลังกาย หรือนำแผ่นรองเท้าคุณภาพดีมาเสริมใส่เข้าไปในรองเท้าก็จะช่วยได้ระดับหนึ่ง
นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายให้ถูกวิธีแล้ว ควรทำจิตใจและร่างกายให้ผ่อนคลายอยู่เสมอ อย่าเครียดมาก เพราะถ้าเครียดร่างกายทุกส่วนจะเกร็ง เมื่อเกร็งมากๆ จะเกิดการสะสมและอาการปวดเมื่อยจะตามมาในที่สุด สำหรับใครที่ไม่มีเวลาผ่อนคลายความเครียด มีวิธีผ่อนคลายบ่าและไหล่บนรถง่ายมาแนะนำ ด้วยการ 1.กดหัวไปกับพนักพิงแรงๆแล้วค้างไว้ 10 วินาที แล้วปล่อย ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง 2.กดปลายบ่าลง แล้วค้างไว้ 10 วินาที แล้วปล่อย ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง เพียงเท่านี้ก็ลดอาการเมื่อยล้าลงได้
ถ้าไม่อยากมีปัญหาจุกจิกกวนใจจากอาการเมื่อยล้าต่างๆ การดำเนินชีวิตด้วยจิตใจและร่างกายที่ผ่อนคลาย ดูจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด