หลายๆ คนอาจต้องการพักผ่อนจากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี แต่กลับเลือกพักสถานที่ ที่บรรยากาศเดิมๆ ไม่แตกต่างจากกรุงเทพฯ เลย ส่วนใหญ่จะเป็นตัวอาคารสูง บริเวณระแวกโรงแรมก็ประกอบไปด้วยแหล่งช๊อปปิ้ง ร้านค้า บาร์เบียร์ และรถยนต์ ไม่แตกต่างอะไรจากกรุงเทพฯ อาจมีเพียงท้องทะเลที่อยู่ตรงข้างหน้าระเบียง ที่แบ่งออกเป็นล็อคๆ ระเบียงใคร ระเบียงมัน มองไปข้างล่างก็มีสระว่ายน้ำ ได้พาลูกกับคนรักเล่นน้ำ บรรยากาศที่พักหรูหรา โอ่อ่าแสนสบาย แต่ก็ได้มุมถ่ายภาพที่บรรยากาศต่างไปจากเดิม กับบรรยกาศรอบๆ ทะเลและหาดทราย ที่เหมือนกันทุกที่ แต่ก็ยังชอบ เพราะคิดอะไรไม่ออก ก็ทะเลนี่แหล่ะ ใกล้ที่สุดแล้ว ขี้เกียจไปไกล
อาหารก็แพงจัง แค่ข้าวผัดปูจานเดียวเกือบ 200 บาท ไม่ต้องพูดถึงเมนูอื่นๆ แล้ว แต่ก็ยอมจ่าย เพราะอยากทานอาหารทะเล ไหนๆ ก็มาแล้ว นอนหนึ่งถึงสองคืนก็พักอยู่ระแวกนั้น ขากลับแวะซื้อของฝาก ที่ีมีเพื่อนเดินทางก็มาแวะกันมากมายเหมือนเราทำให้ดูคึกคักดี ตกเย็นก็เดินทางถึงกรุงเทพฯ แล้วพรุ่งนี้ก็เริ่มงานใหม่ นี่แหล่ะการชาร์แบ็ตของคนเืมืองส่วนใหญ่
นี่คือค่านิยมของคนส่วนใหญ่ที่เลือกเที่ยวแบบนี้ แค่นิดหนึ่งก็ยังดี แต่คุณอาจจะลืมนึกไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ธรรมชาติ ที่สามารถทำให้คุณได้สูดอากาศได้เต็มปอดและหลั่งสารแห่งความสุขให้คุณได้รู้สึกแตกต่าง นั่นคือต้นไม้ ภูเขา น้ำตก หรือการได้ดูพระอาิทิตย์ขึ้นยามเช้า ท่ามกลางสายหมอก และอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งเป็นแหล่งของพลังงานประจุลบ ที่ทำให้คุณผ่อนคลายได้ดีมากกว่าสถานที่อื่นๆ ่อย่างไม่รู้ตัว
บทความโดย http://touchstarresort.hong-pak.com