มาดูวิธีการทำความสะอาดเครื่องกันหนาว ไม่ว่าจะเสื้อกันหนาวหรือรองเท้าบูทคู่โปรด รับรองว่าสะอาดและดูใหม่อย่างแน่นอนถ้าใช้วิธีเหล่านี้
ฤดูหนาวใกล้เข้ามาแล้ว หลาย ๆ คนคงกำลังตื่นเต้นกับอากาศที่กำลังจะมาเยือน และเริ่มขุดเอาเครื่องกันหนาว ไม่ว่าจะเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หรือรองเท้าบูทคู่โปรด ที่เก็บเอาไว้ก้นตู้ออกมาทำความสะอาดกันแล้วใช่ไหมล่ะ อาจจะคิดว่าการทำความสะอาดของเหล่านี้แค่เพียงซักแล้วตากให้แห้งอย่างเดียวก็น่าจะได้ อ๊ะ ๆ คิดผิดแล้วล่ะค่ะ เพราะถ้าหากอยากจะให้เครื่องกันหนาวเหล่านี้สะอาดและยังดูใหม่อยู่เสมอ การทำความสะอาดอย่างถูกวิธีก็สำคัญมาก ๆ เลย ฉะนั้นวันนี้เราไปดูวิธีการทำความสะอาดเครื่องกันหนาวที่ถูกวิธีที่เว็บไซต์ buzzfeed.com นำมาฝากกัน ใครที่ยังหาวิธีซักเสื้อกันหนาวตัวโปรดอยู่ ห้ามพลาด
1. ซักเสื้อที่ทำจากผ้าไหมด้วยมือ ในน้ำอุณหภูมิห้องและสบู่อ่อน ๆ
หลายคนคงจะมีเสื้อกันหนาวที่ทำจากผ้าไหมใช่ไหมคะ การซักรวมกับผ้าชนิดอื่น ๆ ในเครื่องซักผ้านอกจากจะทำให้เสื้อผ้าเสียทรงแล้วยังจะทำให้ยับอีกด้วย ฉะนั้นถ้าอยากให้เสื้อที่ทำจากผ้าไหมเหล่านี้ยังสวยเหมือนใหม่ละก็ ควรจะซักด้วยมือในน้ำอุณหภูมิห้องและควรใช้สบู่อ่อน ๆ เพื่อทำความสะอาด เสื้อกันหนาวของคุณจะได้ยังสวยเหมือนใหม่และสวมใส่สบาย
2. ซักเสื้อผ้าสักหลาดในน้ำอุณหภูมิห้อง จะช่วยทำให้เสื้อไม่เป็นขุย
ถึงแม้กว่าการซักเสื้อผ้าด้วยน้ำอุ่นจะทำให้เสื้อผ้าสะอาด แต่สำหรับเสื้อผ้าที่เป็นผ้าสักหลาดก็อาจจะเป็นขุยได้ ซึ่งพอเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นขุยมันก็จะดูไม่น่าใส่และทำดูเก่าไปเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าจะต้องซักเสื้อผ้าสักหลาดก็แยกซักกับผ้าอื่น ๆ ในน้ำอุณหภูมิห้องนะคะ
3. ทำความสะอาดรอยเปื้อนด้วยเบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดา นอกจากจะช่วยลดกลิ่นอับในเสื้อผ้าแล้วยังสามารถทำความสะอาดรอยเปื้อนที่เกิดจากน้ำมันได้อีกด้วย โดยการนำผงเบกกิ้งโซดามาโรยลงบนรอยเปื้อนแล้วทิ้งเอาไว้สักครู่ จากนั้นก็ค่อยลบรอยเหล่านั้นด้วยสบู่ซักผ้า แต่ก็อย่าถูแรงจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เป็นรอยได้ แล้วล้างออกให้สะอาดและตากให้แห้ง แค่นี้รอยน้ำมันที่มากวนใจคุณก็จะหมดไปค่ะ
4. ใช้ผงซักฟอกที่อ่อนโยนต่อธรรมชาติ และซักซ้ำด้วยน้ำเปล่า
ผงซักฟอกที่มีสารเคมีเยอะ ๆ ก็ไม่เหมาะกับเสื้อกันหนาวสักเท่าไร และถ้าหากเราซักไม่สะอาดสารเคมีเหล่านั้นก็อาจจะตกค้างและทำให้ผิเกิดการระคายเคืองได้ ฉะนั้นเปลี่ยนจากการใช้ผงซักฟอกที่มีสารเคมีเยอะ ๆ มาใช้ผงซักฟอกที่่มีฟองน้อยกว่าและมีส่วนประกอบจากธรรมชาติกันดีกว่า นอกจากนี้ก็อย่าลืมซักด้วยน้ำเปล่าซ้ำอีกครั้งเพื่อที่จะได้ไม่มีสารตกค้างอยู่บนเครื่องกันหนาวค่ะ
5. เปลี่ยนวิธีการตากผ้า
ปกติเรามักจะตากผ้าด้วยการนำมาแขวนบนไม้แขวนเพื่อให้เสื้อผ้าแห้งใช่ไหมคะ แต่สำหรับเสื้อกันหนาวที่ยืดง่าย การแขวนแบบปกติก็อาจจะทำให้เสื้อยืดเร็ว ลองเปลี่ยนมาแขวนเสื้อแบบแนวนอนดูสิคะ โดยแค่ใช้ไม้แขวนเพิ่มขึ้น 2-3 อัน แขวนแล้วพาดเสื้อที่ต้องการแขวนบนไม้แขวน แบบนี้ก็จะทำให้เสื้อยืดช้าลง แต่ถ้าใครชอบ DIY ก็ลองเอาไม้แขวนมาดัดแปลงให้แขวนในแนวยาวดูก็ได้นะ รับรองว่าวิธีนี้เสื้อกันหนาวตัวโปรดของคุณจะไม่ย้วยไปตามกาลเวลาแน่นอน
6. หมั่นขจัดขนและขุยต่าง ๆ ที่อยู่บนเสื้อ
ถ้าแม้ว่าวิธีนี้อาจจะทำให้เสื้อกันหนาวของคุณบางเร็วไปเสียหน่อย แต่การขจัดขนและขุยบนเสื้อก็จะช่วยทำให้เสื้อกันหนาวตัวโปรดดูใหม่อยู่เสมอ วิธีขจัดขนเหล่านี้ก็ไม่ยาก อาจจะใช้มีดโกนหนวดค่อย ๆ ขูดเบา ๆ ไปตามผ้าก็ได้ หรือจะใช้เครื่องกำจัดขุยบนเสื้อผ้าที่สมัยนี้มีวางขาย แถมราคาไม่แพงมาใช้ก็ได้ค่ะ
7. พับเสื้อกันหนาวเอาไว้เสมอ
การแขวนเสื้อกันหนาวเอาไว้อาจจะสะดวกต่อการหยิบมาใช้ก็จริง แต่ถ้าหากคุณไม่ค่อยได้ใช้เสื้อกันหนาวเหล่านั้น การแขวนเอาไว้ก็อาจจะทำให้ฝุ่นเกาะ เวลาหยิบมาใส่ก็อาจจะทำให้คันด้วย ที่สำคัญใครที่ชอบใส่น้ำหอมบนเสื้อกันหนาว การพับเสื้อจะทำให้กลิ่มหอมอยู่กับเสื้อไปนาน ๆ ด้วยนะคะ
8. ใส่โรสแมรี่ไว้ในตู้ช่วยไล่แมลงกินผ้าได้
ถ้าคุณไม่อยากให้เครื่องกันหนาวของคุณ ไม่ว่าจะเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หรือถุงมือ ถุงเท้า โดนจู่โจมด้วยแมลงกินผ้าละก็ ลองหาโรสแมรี่มาใส่เอาไว้ในตู้เสื้อผ้าหรือชั้นเก็บเครื่องหนาวสิ รับรองว่าเจ้าแมลงพวกนี้ไม่มากวนใจแน่นอน
9. กำจัดกลิ่นจากเสื้อถักด้วยน้ำส้มสายชู
เสื้อกันหนาวไหมพรมที่หลาย ๆ คนชอบใส่เพราะอุ่น อาจจะสร้างปัญหาปวดหัวให้กับคนใส่ได้ถ้าหากว่ามันเกิดมีกลิ่นขึ้นมา แต่อย่ากังวลไปค่ะ แค่นำน้ำผสมกับน้ำส้มสายชูและน้ำมัน หอมระเหยกลิ่นที่คุณชอบ แล้วเอามาพรมด้านในของเสื้อ ก็จะช่วยให้กลิ่นเหล่านั้นหายไป แถมยังช่วยทำให้เสื้อหอมอีกด้วย แต่วิธีนี้สงวนไว้ใช้กับเสื้อถักไหมพรมที่มีกลิ่นไม่มากนะคะ
10. ห้ามใช้น้ำส้มสายชูกับผ้าไหมเทียม
แม้การใช้น้ำส้มสายชูพรมบนเสื้อกันหนาวจะช่วยลดกลิ่นได้ แต่สำหรับเสื้อที่ทำจากไหมเทียมก็อาจจะทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้ เพราะกรดจากน้ำส้มสายชูจะไปทำลายเนื้อผ้า ทำให้เสื้อกันหนาวที่ทำจากไหมเทียมของคุณเสื่อมสภาพไวค่ะ
11. ห้ามให้เสื้อที่มีขนสัตว์เทียมโดนความร้อน
ถ้าเสื้อกันหนาวตัวโปรดมีขนสัตว์เทียมเป็นส่วนประกอบละก็ หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนอย่างเด็ดขาดเลยค่ะ โดยซักด้วยน้ำเย็นและผงซักฟอกอ่อน ๆ และไม่ควรไปอบด้วยความร้อน ปล่อยให้แห้งด้วยลมจะดีกว่านะคะ เพราะการที่คุณนำไปอบในเครื่องอบผ้าหรือใช้ลมร้อนเป่า อาจจะทำให้ขนสัตว์เทียมเหล่านั้นละลายติดกันได้
12. แก้ปัญหาขนสัตว์เทียมพันกันด้วยการสาง
ถ้าหากว่าคุณเผลอใช้ความร้อนกับขนสัตว์เทียมจนมันพันกันไปเสียแล้วก็อย่าเพิ่งตกใจจนไปหากรรไกรมาตัดออกนะคะ ปัญหานี้สามารถคลี่คลายได้ด้วยการใช้หวีสางบริเวณที่พันกันโดยอาจจะใช้น้ำยาแก้พันมาช่วยทำให้สางง่ายขึ้น อาจจะใช้เวลานานหน่อยแต่ก็สามารถช่วยทำให้กลับมาใกล้เคียงกับสภาพดีได้ แต่ทางที่ดีอย่าใช้ความร้อนกับมันตั้งแต่แรกดีกว่านะ
13. ทำความสะอาดรองเท้าหนังกลับด้วยแปรงขนอ่อน น้ำสายชู และน้ำเปล่า
ถ้าหากรองเท้าหนังกลับคู่โปรดที่่คุณชอบหยิบมาใช้ช่วงหน้าหนาวมีรอยสกปรกละก็ ให้ใช้แปรงขนอ่อนชุบกับน้ำผสมน้ำส้มสายชูมาขัดเบา ๆ ตรงรอยสกปรกแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก็จะช่วยทำให้รอยสกปรกหมดไปและกลับมาดูเหมือนใหม่ได้ค่ะ
14. ซักถุงน่องด้วยมือและสบู่เท่านั้น
ถุงน่องเป็นเสื้อผ้าที่ต้องให้ความสนใจกับมันอย่างมากเลยล่ะค่ะ เพราะถ้าซักเครื่องหรีอขยี้ด้วยมือแรงมากไปก็อาจจะทำให้ขาดได้ และถ้าใช้สารเคมีก็จะทำให้ระคายเคืองกับผิวได้ ดังนั้นเวลาซักควรใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนหรือสบู่ที่ไม่ค่อยมีสารเคมีในการซัก และไม่ควรขยี้ถุงน่องแรงด้วยนะคะ จะได้ไม่ขาด ไม่ยืด นอกจากนี้เวลาซักควรซักก่อนเสื้อผ้าชนิดอื่น ๆ ด้วย
15. ซักถุงเท้าถักไหมพรมและถุงมือถักด้วยผงซักฟอกที่อ่อนโยน
บรรดาถุงเท้าและถุงมือที่ทำจากไหมพรมถัก เป็นเครื่องกันหนาวที่ไม่ควรใช้ผงซักฟอกที่มีสารเคมี เพราะอาจจะทำให้ไหมเสื่อมสภาพเร็วได้ ถ้าเป็นไปได้ควรจะซักด้วยผงซักฟอกที่มีสารเคมีน้อยหรือไม่ก็สบู่จะดีที่สุดค่ะ
16. ทำความสะอาดคราบสกปรกบนรองเท้าหนังด้วยน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่า
ถ้ารองเท้าบูทหนังของคุณมีรอยเปื้อนให้คุณรู้สึกวุ่นวายใจ ให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเปล่ามาเช็ดบริเวณคราบด้วยผ้านิ่ม ๆ ก็จะทำให้รอยเหล่านั้นหายไปได้ รับรองว่าเนี้ยบเหมือนเดิมแน่นอน
17. ลบรอยขีดข่วนบนรองเท้าหนังกลับด้วยยางลบดินสอ
เวลาที่หนังกลับโดนรอยขีดข่วนก็มักจะทิ้งเป็นรอยเส้นขาว ๆ ให้รองเท้าดูไม่สวย แต่เลิกกังวลได้แล้วค่ะ รอยเหล่านี้จะหมดไปได้แค่เพียงใช้ยางลบดินสอมาลบบริเวณที่เป็นรอย รอยเหล่านั้นก็จะหายไป ทำให้รองเท้าเหมือนใหม่เลยล่ะค่ะ
18. สังเกตสัญลักษณ์กำกับให้ดีก่อนซัก
เสื้อผ้าหลายชนิดมักจะมีป้ายกำกับถึงวิธีการซักอยู่ที่คอเสื้อหรือไม่ก็บริเวณตะเข็บเสื้อด้านใน ซึ่งป้ายเหล่านั้นจะบอกให้เราทราบว่าเสื้อผ้าตัวนั้นจะต้องซักด้วยวิธีใด ใช้น้ำอุณภูมิเท่าใดในการซัก และโดนความร้อนได้หรือไม่ ถ้าไม่อยากให้เสื้อผ้าตัวโปรดอำลาเราไปก่อนเวลา อย่าลืมสังเกตก่อนซักด้วยนะคะ
เครื่องกันหนาวจะมีอายุอการใช้งานยืนยาวหรือไม่ก็ขึ้นกับวิธีการดูแลรักษาด้วยนะ ถ้าเราดูแลมันอย่างดีก็รับรองว่าเจ้าเครื่องกันหนาวชิ้นโปรดของคุณจะอยู่กับคุณไปได้อีกหลายหนาวเลยค่ะ
ที่มา:http://home.kapook.com
ลิงค์ข้อมูล: http://home.kapook.com/view103759.html