ขนมหวานดับร้อนยอดฮิต 6 ถ้วยนี้มีดีตรงไหน
วันที่ : 19/10/2015 จำนวนผู้ชม : 15,428
ถ้ากลัวว่าการหม่ำไอศกรีมคลายร้อนจะได้แต่น้ำตาลและความอ้วน ลองเปลี่ยนมาทานขนมหวานแบบไทย ๆ ให้ชื่นใจแทนดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ประโยชน์จากพืชผักผลไม้บ้างล่ะน่า
หน้าร้อนปรอทแตกแบบนี้ ขนมหวาน ๆ เย็น ๆ ใส่น้ำแข็งไสดูจะขายดีเป็นพิเศษ เพราะทานแล้วสดชื่น ตื่นตัว แถมคลายร้อนได้อีกต่างหาก แล้วจะดีกว่าไหมถ้าเราได้รู้ว่าขนมหวานคลายร้อนแต่ละถ้วยที่เราชอบทานกันนั้น มีคุณประโยชน์อะไรแฝงอยู่บ้าง
แตงไทยน้ำกะทิ
ยังไม่ทันได้ตักเข้าปาก กลิ่นหอม ๆ ของแตงไทยก็ลอยมาเตะจมูกแล้ว ซึ่งแตงไทยฉ่ำน้ำนี้มีวิตามินเอสูงมาก นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี ธาตุฟอสฟอรัส แคลเซียม ฯลฯ อยู่มากด้วย จัดเป็นผลไม้รสเย็น มีสรรพคุณคลายร้อน แก้เลือดกำเดาไหล บำรุงธาตุ บำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ จะทานเปล่า ๆ หรือทานกับน้ำกะทิ ใส่น้ำแข็ง ช่วยดับกระหายได้ดีนักเชียว แต่ถ้าใครกลัวอ้วน ก็อย่าทานน้ำกะทิมากไป เน้นทานแตงไทยดีกว่า
ทับทิมกรอบ
กัดแล้วกรุบกรอบด้วยส่วนผสมของ "แห้ว" ก็ทำให้ทับทิมกรอบถ้วยนี้กลายเป็นของหวานอีกถ้วยที่คนชอบทาน ซึ่งส่วนผสมสำคัญอย่าง "แห้ว" จัดเป็นยาเย็น บำรุงธาตุ มีสารอาหารสำคัญอย่างเช่น แคลเซียม เหล็ก วิตามินซี มีโพแทสเซียมที่ช่วยบำรุงระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาทให้ทำงานเป็นปกติ
ไม่ใช่แค่นั้น เพราะแห้วยังสามารถแก้ร้อนใน ดับกระหาย ละลายเสมหะ แก้อาการอาหารไม่ย่อย ท้องผูกได้อีก แต่เป็นอาหารที่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีความผิดปกติที่ม้ามและกระเพาะอาหาร
สละลอยแก้ว
ผลไม้ลอยแก้วนี่ก็เป็นของหวานสุดฟินตลอดซัมเมอร์นี้เลย เพราะน้ำเชื่อมในน้ำแข็งช่วยเติมความสดชื่นให้ร่างกาย บวกกับผลสละ ผลไม้รสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ มีวิตามินซีป้องกันหวัด มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และยังมีสรรพคุณช่วยแก้กระหายน้ำ บำรุงเลือด บำรุงหัวใจ เนื้อก็เป็นยาขับเสมหะด้วย
กระท้อนลอยแก้ว
เมนูของหวานคลายร้อนอย่างกระท้อนลอยแก้ว ก็มีวิตามินซีสูงเหมือนกันจากเนื้อกระท้อนหวาน ๆ ปุย ๆ ฟู ๆ ทำให้ไม่ป่วยเป็นหวัดง่าย และในกระท้อนยังมีเส้นใยอยู่มาก กินแล้วช่วยทำให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ
แต่มีข้อควรระวังก็คือ เนื่องจากกระท้อนเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคอ้วนจึงไม่ควรทาน เพราะอาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้ ยิ่งทานร่วมกับน้ำเชื่อมอีก ควรหลีกของหวานคลายร้อนถ้วยนี้ให้ไกลเลยค่ะ รวมทั้งผู้ป่วยโรคไต เพราะกระท้อนมีโพแทสเซียมสูงทีเดียว
เฉาก๊วย
วุ้นดำ ๆ เคี้ยวแล้วหนึบหนับ เด้งดึ๋ง ไม่ใช่ว่าทานแล้วจะช่วยดับกระหาย แก้ร้อนในเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีฤทธิ์ขับเสมหะ ลดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยแพทย์แผนจีนแนะนำว่า หากนำเฉาก๊วยมาต้มแล้วดื่มเป็นประจำจะช่วยบรรเทาอาการโรคเบาหวาน รวมทั้งความดันโลหิตสูงได้ด้วย แต่ก็ต้องระวังเรื่องการเติมน้ำตาลลงในเฉาก๊วยด้วยค่ะ
ข้าวเหนียวมะม่วง
ปิดท้ายที่อาหารประจำฤดูร้อนอย่าง "ข้าวเหนียวมะม่วง" ที่ แม้จะไม่ใช่อาหารคลายร้อน หรือหวานเย็น แต่ก็เป็นของหวานที่พลาดไม่ได้จริง ๆ ในช่วงซัมเมอร์ เพราะรสหวาน ๆ ของมะม่วงสุก ผสมผสานกับข้าวเหนียวนุ่ม ๆ ราดน้ำกะทิเค็ม ๆ พาลให้วางช้อนไม่ลงจริง ๆ
โดยเมื่อทานเราจะได้รับประโยชน์จากมะม่วงสุกที่มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา มีไฟเบอร์สูงช่วยเรื่องการขับถ่าย ส่วนกะทิก็เป็นตัวช่วยให้ร่างกายสามารถนำวิตามินเอที่มีอยู่ในเนื้อมะม่วงไปใช้ได้ เพราะวิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ในขณะที่ข้าวเหนียว แม้จะเป็นแป้ง แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นข้าวเหนียวดำ ก็มีสารต้านมะเร็งชั้นเลิศอยู่เช่นกัน
ข้อควรระวังก็คือ ขนมหวานจานนี้ให้พลังสูงมาก จึงไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องโรคอ้วน เบาหวาน รวมทั้งโรคความดันโลหิตสูง ส่วนในคนทั่วไปก็ไม่ควรทานมากเกินไป แค่ลิ้มชิมรสพอให้หายอยากน่าจะดีต่อสุขภาพที่สุด แต่ถ้าอยากทานจริง ๆ ก็ต้องอ่าน เคล็ดลับการกินข้าวเหนียวมะม่วงแบบไม่ให้เกิดโทษ
เห็นของหวานแต่ละถ้วยแล้วน้ำลายสอขึ้นมาเลย เพราะอร่อยคลายร้อนทุกถ้วย แต่อย่างที่บอกไปนะคะว่าไม่ควรทานมากจนเกินไป เพราะน้ำตาลและกะทิอาจให้ผลร้ายกับสุขภาพได้เหมือนกัน เอาเป็นว่าทานแต่พอดับกระหายน่าจะดีค่ะ
ที่มา:http://health.kapook.com/
ลิงค์ข้อมูล: http://health.kapook.com/view116993.html