เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการตัดแต่งหญ้า
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าหญ้าปลูกอย่างไรก็ขึ้น ไม่ต้องใส่ใจมากนัก แต่ความจริงถ้าต้องการให้พื้นสนามราบเรียบเหมือนปูพรม เรื่องนี้ก็ไม่ง่ายที่จะทำให้สำเร็จ ดังนั้นการบำรุงรักษาหญ้าให้สวยงามจึงเป็นเรื่องจำเป็นเช่นเดียวกับการดูแลพันธุ์ไม้ต่างๆ ทั้งนี้ก็เพื่อให้หญ้ามีสีเขียวชอุ่มเสมอกันทั้งสนาม ช่วยแก้ปัญหาเรื่องแสง เสียงสะท้อน และบรรเทาการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองได้อีกด้วย
การตัดแต่งหญ้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สนามหญ้าหน้าบ้านมีความสวยงาม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของหญ้าด้วยเพราะมีลักษณะและประโยชน์ใช้สอยแตกต่างกันไป สำหรับหญ้าที่นิยมปลูกกันในปัจจุบันเพราะหาซื้อง่ายก็มีประมาณ 3 ชนิดคือ
- หญ้าญี่ปุ่น (Japanese Lawnggrass) ใบเล็กละเอียด ปลายใบแข็ง เวลาสัมผัสจะระคายผิวหนัง ชอบแดดจัดทั้งวัน ทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี แต่ไม่เหมาะจะใช้นั่งเล่นเพราะมีใบแข็งกระด้าง ในการตัดแต่งจะต้องใช้เครื่องตัดหญ้าที่มีกำลังสูง และมีใบมีดที่คมมากจึงจะตัดได้เรียบและสวยงาม เพราะหญ้าญี่ปุ่นมีความเหนียว ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานวันก็จะขึ้นเป็นกระจุก หญ้าชนิดนี้จึงต้องตัดให้สั้นประมาณ 0.5-1 นิ้ว โดยตัดทุกๆ 7-10 วัน
- หญ้านวลน้อย (Manila Grass) ใกล้เคียงกับหญ้าญี่ปุ่น แต่มีใบกว้างและนุ่มกว่า เติบโตเร็วพอควร ทนต่อการเหยียบย่ำและอุณหภูมิสูงได้ดี แต่ในฤดูแล้งต้องหมั่นรดน้ำอยู่เสมอไม่เช่นนั้นใบจะเหลือง ใช้นั่งเล่นได้ การตัดแต่ง ใช้เครื่องมือได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นกรรไกรหรือรถตัดหญ้า โดยตัดทุกๆ 7-14 วัน และควรตัดให้สั้น 0.75-1.5 นิ้ว เพราะมีช่อดอกค่อนข้างยาว (ดอกมีสีน้ำตาลดำ) เมื่อตัดเรียบร้อยแล้วสนามหญ้าจะดูสวยงามคล้ายพรม
- หญ้ามาเลเซีย (Tropical Carpet Grass) ใช้ทำสนามหญ้าและจัดสวนหย่อม มีใบใหญ่กว่าใบหญ้าทุกชนิด เหมาะที่จะปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่หรือใต้ชายคาบ้านเพราะต้องการแสงแดดน้อย แต่ก็ปลูกกลางแจ้งได้ โดยต้องให้น้ำในปริมาณมากเป็นพิเศษ หากขาดน้ำขอบใบจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงเลือดหมู หญ้าชนิดนี้ไม่ทนต่อการเหยียบย่ำเนื่องจากใบอวบน้ำและเปราะ หญ้ามาเลเซียไม่ต้องตัดบ่อยเหมือนหญ้าอื่นๆ โดยตัดให้สั้นประมาณ 1-2 นิ้ว ทุกๆ 10-15 วัน และใช้เครื่องมือตัดหญ้าได้ทุกชนิด
การบำรุงรักษาสนามหญ้าที่ดีนั้น ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่เพียงพอสำหรับหญ้าแต่ละชนิดและสภาพแวดล้อมด้วย เช่น สนามหญ้ากลางแจ้งโดนแดดตลอดทั้งวันก็ต้องให้น้ำในปริมาณที่มากกว่าบริเวณที่มีแสงแดดรำไร การรดน้ำต้องให้ทั่วและเปียกชุ่มถึงปลายราก ในบางกรณีเราอาจงดให้น้ำในบางวัน หากต้องการให้ต้นหญ้าเจริญงอกงามและทนแล้งได้ดี (เมื่อผิวดินเริ่มแห้งต้นหญ้าก็จะแทงรากลึกลงไปในดินหาแหล่งอาหารเพื่อความอยู่รอด ทำให้หญ้ามีรากยาวใช้หาน้ำและอาหารได้มากขึ้น) และเมื่อเราเห็นว่าใบหญ้าเริ่มเหี่ยวก็เริ่มให้น้ำตามปกติ วิธีดังกล่าวควรทำนานๆครั้ง และถ้าเป็นไปได้ควรรดน้ำในขณะที่แดดไม่ร้อนจัด อาทิ ตอนเช้าหรือตอนเย็น และควรฉีดเป็นฝอยๆ เนื้อดินจะได้ไม่แน่น
แหล่งที่มา : www.thaihomeonline.com