6 สถานที่ใหม่ ให้แรงบันดาลใจเรื่องการรีโนเวท และการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์
วันที่ : 27/11/2015 จำนวนผู้ชม : 11,798
จะเปิดแคตวอล์ก เวทีโชว์ จัดพูลปาร์ตี้ หรือปาร์ตี้แบบเป็นส่วนตัว ทั้งหมดเกิดขึ้นได้ที่ IfItIs ร้านอาหารสุดติสต์ที่คุ้นชื่อกันดีในย่านสุขุมวิท มาวันนี้ขยับขยายร้านใหม่มาอยู่ที่ซอยทองหล่อ 23 กว้างขวางกว่าเดิม เหมาะเป็นปาร์ตี้สเปซรองรับแขกได้ถึง 200 ที่นั่ง
เพราะความถนัดด้านการรับออกแบบตกแต่งภายในและการทำงานศิลปะ ภายในร้านจึงรายล้อมด้วยสีสันสดใสและผลงานศิลปะสุดแหวกแนว ตั้งแต่ลวดลายบนผนังที่เพ้นต์เองด้วยมือทั้งหมด การจัดแปลนซ่อนห้องลับแบบนั่งพื้นสบาย ๆ และงานอินสตอลเลชั่นที่เป็นฟังก์ชันเท่ ๆ รวมตัวกันกลายเป็นพื้นที่สำหรับสังสรรค์สร้างความรู้สนุกสนานตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา แถมยังเป็นมิตรกับคนรักสัตว์ด้วยสนามหญ้าเอ๊าต์ดอร์ด้านหน้า เป็นคอมมูนิตี้สำหรับทั้งสัตว์เลี้ยงและเจ้าของได้เพลิดเพลินไปพร้อมกัน
นอกจากงานดีไซน์ที่มีดีเทลสุดชิคแล้ว แต่ละเมนูของที่นี่ก็ไม่ธรรมดา เพราะเน้นอาหารสไตล์ฟิวชั่นร่วมสมัยผสมผสานอาหารไทยเข้ากับอาหารฝรั่ง สร้างสรรค์อย่างลงตัวทั้งรสชาติและไอเดียการจัดวาง ประหนึ่งว่าอาหารทุกจานเป็นงานศิลปะที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษชิ้นหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นเลย
สถานที่
IfItIs
ซอยทองหล่อ 23 กรุงเทพ ฯ
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 น. - 24.00 น.
โทร. 09-4449-4426
www.ifitis-bkk.com
Ponganes Espresso
ในยุคที่อินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องขาดไม่ได้สำหรับหลาย ๆ คน ร้านกาแฟที่มีสัญญาณ Wi-Fi จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ จนบางครั้งเราอาจมองข้ามความดีงามของกาแฟที่บาริสต้าบรรจงทำให้เราดื่ม Ponganes Espresso เป็นร้านหนึ่งที่สวนกระแสไม่แคร์สื่อ ด้วยการไม่มี Wi-Fiและเครื่องปรับอากาศ
เมนูมีให้เลือกไม่เยอะแต่เน้นที่รสชาติอันโดดเด่น จึงสอดคล้องกับสไตล์ของร้านที่เสิร์ฟกาแฟด้วยเครื่องเอสเปรสโซในสไตล์ออสเตรเลีย ตกแต่งด้วยของน้อยชิ้น แต่ใช้งานได้จริง โดยมีคุณอรรถสิทธิ์ กองมงคลสถาปนิกจาก Full Scale Studio เป็นผู้ออกแบบ ลงมือปรับโฉมอาคารที่มีการก่อสร้างแบบเต็มพื้นที่ และมีฝ้าเพดานต่ำ ด้วยการรื้อพื้นออกให้เพดานดูสูงขึ้น เหลือเพียงชั้นลอย แล้วทำสเปซให้ดูต่อเนื่อง
สามารถมองเห็นการทำงานของเจ้าของร้านอย่าง คุณเนส พรพรรณ วิภาพันธุ์ และ คุณปอง ระวิ เกษมสุขที่เป็นทั้งบาริสต้าและโรสเตอร์ผ่านผนังกระจก แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วน ด้านหน้าใช้เป็นส่วนคาเฟ่มีทั้งเอสเปรสโซบาร์และสโลวบาร์ ส่วนที่ 2 คือห้องคั่วกาแฟ ส่วนที่ 3 ชั้นลอยเป็นพื้นที่สำหรับจัดเวิร์คชอปให้ผู้สนใจเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับกาแฟ
ความน่าสนใจคือโคมไฟที่คุณอรรถเป็นผู้ออกแบบให้ใหม่ ความพิเศษอยู่ที่ตัวโครงเหล็กซึ่งเป็นท่อสำหรับเดินสายไฟ และเป็นส่วนหนึ่งของชั้นวางของที่สามารถปรับระดับความสูงได้ ที่นั่งของลูกค้ากับเคาน์เตอร์บาร์อยู่ในสัดส่วนที่เท่ากัน เน้นให้บาริสต้าทำงานได้เต็มที่ ด้วยความจริงจังกับการทำกาแฟของบาริสต้า เคาน์เตอร์จึงจำเป็นต้องรองรับการทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ทางร้านเน้นเรื่องการคั่วเมล็ดกาแฟจำหน่าย และจัดเวิร์คชอปเป็นหลัก ที่นั่งจึงไม่ได้เน้นให้นั่งนาน แต่ต้องการให้มาซึมซาบรสชาติกาแฟอย่างแท้จริง มีที่ให้นั่งเฉพาะเสาร์ - อาทิตย์ หากมาวันธรรมดาต้องซื้อกลับไปเท่านั้น หรือจะยืนดื่มที่ร้านก็ไม่ว่ากัน
ก่อนออกจากร้านเราหันไปเห็นป้ายกระดานดำที่ตั้งอยู่หน้าร้านเขียนไว้ว่า "no wifi drink coffee & talk to each other” ถ้าความอึดอัดที่ไม่ได้สไลด์หน้าจอ แลกกับความตั้งใจและมีสติในการดื่มกาแฟที่มาจากความตั้งใจ ตั้งแต่ขั้นตอนการคั่วเมล็ดจนถึงนำมาชงดื่ม ก็ถือว่าคุ้มสุด ๆ กลับบ้านไปค่อยอัพรูปแล้วเช็คอินก็ยังทันนะ
Ponganes Espresso
133/5 ถนนราชภคินัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง ฯ จังหวัดเชียงใหม่
เปิดเวลา 9.00 น. – 17.00น. หยุดวันพุธ
โทร. 08-7727-2980, 0-5208-9569
www.facebook.com/ponganesespressobar
Go! Kombucha-Pure Luck Bangkok
คอนเซ็ปต์สโตร์ภายในตึกเก่าอายุกว่า 100 ปี ย่านหัวลำโพงแห่งนี้ ได้รับการรีโนเวตและทำขึ้นมาใหม่จากไอเดียของ คุณติ๊บ - ฉัตรทิพย์ พึ่งธรรม เจ้าของแบรนด์ Pure Luck ที่ผลิต Kombucha หรือชาหมักออร์แกนิก ด้วยความตั้งใจอยากให้ของเหลือใช้หรือขยะจากการผลิตชาไม่ถูกโยนทิ้งไปเฉย ๆ จึงทำสวนดาดฟ้าสำหรับปลูกผักสวนครัวขึ้นมา เมื่อพืชผักต่าง ๆ เติบโตก็นำมาปรุงอาหาร เป็นวงจรธรรมชาติภายใต้หลังคาเดียวกัน
แม้อาคารหลังนี้ภายนอกจะเหมือนตึกเก่าทั่วไป แต่พื้นที่ภายในกลับดูโปร่งโล่งอย่างน่าประหลาด เพราะคุณติ๊บให้ช่างทุบพื้นชั้นสองออกเพื่อเชื่อมสเปซยาวจรดเพดานด้านบน รวมไปถึงการเจาะช่องแสงที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อให้ภาพรวมในตัวอาคารดูสว่างขึ้น ส่วนชั้นลอยเป็นครัวเปิดให้ลูกค้ามองเห็นเชฟขณะปรุงอาหารได้แบบใกล้ชิด อีกด้านเป็นห้องพักอาศัยของคุณติ๊บเอง โดยยังคงผนังอิฐเดิมเอาไว้แล้วทาสีใหม่ให้อารมณ์ความดิบอยู่เช่นเดิม
พื้นที่ชั้นล่างทั้งหมดเป็นส่วนผลิตชาที่คุณติ๊บทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบใบชาออร์แกนิกจากหลายแหล่งผลิตทั่วโลกแล้วนำมาต้มกับน้ำแร่ จากนั้นใส่เชื้อหมักในขวดโหลแก้วขนาดใหญ่ที่สั่งนำเข้าเป็นพิเศษ เนื่องจากหาซื้อในไทยไม่ได้ เพราะคำนึงถึงการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่อยากใช้พลาสติก รวมถึงวัสดุซีลฝาขวดชาก็ใช้ bee wax 100% ด้วยเช่นกัน
ใครสนใจอยากชมตึกเก่าแล้วชิมชาหมักออร์แกนิกที่อุดมไปด้วย antioxidants, flavonoids , polyphenols, probiotics รวมถึงแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ สามารถแวะมาชมตามนัดหมายได้ที่นี่
สถานที่
Pure Luck Bangkok
31-33 ซอยนานา ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟหัวลำโพง
โทร. 09-3124-5952
www.facebook.com/pureluckbangkok
Email : info@pureluckbangkok.com
Slow Café by Room 111
จากตึกสำนักงานสินเชื่อเก่า ได้รับการแปลงโฉมให้กลายเป็น Room 111 คาเฟ่แสนสงบ โดยมีคุณตั้ม - ชัยรัตน์ ตันตสิรินทร์ และคุณหน่อง - นิรมล ธัญยาธีรพงษ์ ช่วยกันออกแบบให้ที่นี่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในฐานะที่เป็นทั้ง Co Working Space และ Service Office ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบรายวัน รายเดือน ไปจนถึงรายปี ใครเหน็ดเหนื่อยเหมื่อยล้าคิดงานไม่ออก สามารถนั่งพักเอนหลัง พร้อมกับเอ็นจอยด์กับ Eight Black กาแฟ Clod Brew ที่คัดสรรเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิกาชั้นดีจากเคนย่าและเอธิโอเปีย รับประทานคู่กับเบเกอรี่แสนอร่อย ดื่มด่ำกับรสชาติและบรรยากาศแสนอบอุ่นตรงหน้า แค่นี้ก็ช่วยให้จังหวะชีวิตของคุณช้าลงสู่ความผ่อนคลาย
และเพื่อช่วยให้ทุกคนได้พักเบรกจากงานหนัก บวกกับเห็นความสำคัญของการปล่อยความคิดให้ตกตะกอน เฉพาะในส่วนของคาเฟ่จึงตั้งใจให้ไม่มีปลั๊กไฟ และระบบ Wi-Fi ตัดขาดจากความโกลาหลบนโลกอินเตอร์เน็ตสักพัก ช่วยให้คุณได้ใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์พูดคุยกับคนตรงหน้ามากขึ้น รอบ ๆ จัดวางโต๊ะเก้าอี้สั่งทำขึ้นมาใหม่ในสเกลที่เล็กและเตี้ยกว่าปกติ เหมาะกับอาหารจานน้อยมากกกว่าโน้ตบุ๊คเครื่องใหญ่ ท่ามกลางกลิ่นอายเรียบง่ายที่เน้นใช้สัจวัสดุมาช่วยตกแต่ง อาทิปูนเปลือย และไม้เนื้อแข็งโชว์ลายไม้ ซึ่งให้ผิวสัมผัสเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง ท่ามกลางแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านแนวไม้สีเขียวรอบคาเฟ่
สถานที่
Slow Café by Room 111
399/5 สีลมซอย 7 บางรัก กรุงเทพ ฯ
เปิดวันอังคาร – ศุกร์ 8.00 น. – 17.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ 10.30 น. – 17.00 น. (ปิดวันจันทร์)
โทร. 09-1979-5466 และ 08-7997-7871
www.facebook.com/Room111Thailand , www.room111.co
TEP BAR
ห้องแถวสไตล์ชิโนโปรตุกีสอายุ 90 ปี กลางย่านการค้าเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 6 – 7 อย่างเจริญกรุง คือที่ตั้งของ เทพบาร์ (TEP BAR) Cultural Bar หรือบาร์วัฒนธรรม ซึ่งเกิดขึ้นจากความตั้งใจของเจ้าของร้านที่อยากเปิดมุมมองให้ผู้คนได้เห็นว่าความเป็นไทยก็เท่ได้ หลังเห็นร่วมกันว่าคนไทยมีความเทพหลายด้านในสายตาชาวต่างชาติ แต่กลับเป็นที่ยอมรับในสายตาคนไทยด้วยกันต่อเมื่อถูกต่างชาติพูดถึง พวกเขาจึงชวนให้ทุกคนมาเสพความสุขกับอาหารไทยทานง่ายที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นปิ้งจากเตาถ่าน กรุ่นกลิ่นสมุนไพรไทย เคล้ากับเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์คาแร็คเตอร์ตามตัวละครในวรรณคดี เพลิดเพลินไปกับเสียงระนาดขับกล่อมท่วงทำนองแสนไพเราะจากวงสำเนียงเทพ ซึ่งเป็นน้อง ๆ จากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในคืนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
ส่วนการออกแบบร้านก็ได้ 2 อินทีเรียร์ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ไฟแรง อย่างคุณพลสิน แซ่อึ้ง และคุณทรงพล อาชาประดิษฐ์กุล มาช่วยตีโจทย์ความเป็นไทยให้ออกมาแสนโดดเด่นผ่านการคงเอกลักษณ์เดิมของอาคาร โดยนำเสนอยุคทองของไทยผ่านผนังสีทองซึ่งเกิดจากเทคนิคการทาสีก่อนปิดทองคำเปลวลงไป ต่อเนื่องตั้งแต่บริเวณชั้น 2 ลงมายังชั้นล่าง แม้กระทั่งประตู โต๊ะ เก้าอี้ไม้ หรือเคาน์เตอร์บาร์ก็ดึงศิลปะการย่อมุมไม้สิบสองมาเป็นกิมมิกได้อย่างลงตัว
สถานที่
TEP BAR
69-71 ซอยนานา ถนนไมตรีจิตร ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ ฯ
เปิดบริการทุกวัน 17.00 น. – 24.00 น.
www.facebook.com/TEPBAR
โทร. 09-8467-2944
Stay cozy, Stay the Yard hostel Bangkok
เพราะความฝันที่อยากจะนั่งรถไฟจากเมืองไทยไปถึงลอนดอนและแวะหยุดพักทักทายเพื่อนตามประเทศต่าง ๆ ทำให้คุณส้มเล็ก และคุณส้มใหญ่ ตั้งเป้าการเปิด The Yard hostel ให้ได้รู้จักเพื่อนใหม่ 50,000 คน ภายใน 6 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ "นอกพักบ้านญาติ" ซึ่งเป็นการเล่นคำ ให้คำว่า yard มี 2 ความหมาย ในภาษาอังกฤษหมายถึง ลาน หรือสนามหญ้า ซึ่งมาพ้องเสียงกับคำไทยว่า 'ญาติ' นั่นเอง
ทั้งคู่เลือกออกแบบที่พักด้วยตู้คอนเทนเนอร์ทาสีขาวด้านนอกทั้งหมด ส่วนภายในเลือกทาสีเขียวอ่อนพาสเทล จำนวน 8 ตู้ แล้วนำมาซอยแบ่งเป็นห้องได้ทั้งหมด 10 ห้อง มีทั้งห้องแบบส่วนตัวและห้องแบบเตียงรวม รวมไปถึงห้องนั่งเล่นส่วนกลางที่กรุด้านหนึ่งด้วยกระจกใส สามารถมองเห็นวิวสวนด้านล่างได้ทั้งหมด ด้วยรูปแบบของพื้นที่ที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทั้งคู่จึงวางตู้คอนเทนเนอร์เป็นรูปตัวแอล (L) ส่วนพื้นที่ที่เหลือจัดให้เป็นส่วนสนามหญ้ากับผักสวนครัว และมีบาร์น้ำไว้บริการเครื่องดื่ม และอาหารทานเล่น ส่วนทางเดินระหว่างตู้เลือกออกแบบให้เป็นพื้นไม้ เพื่อลดทอนความรู้สึกแข็งกระด้างของงานเหล็ก แล้วประดับของตกแต่งโดยรอบเพื่อให้บรรยากาศดูอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน
ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนไปจนถึงการบริการที่ใกล้ชิดและให้ความเป็นกันเอง จึงทำให้เกิดกิจกรรมหลากหลายเพื่อตอบโจทย์แขกที่มาเยือนอยู่บ่อย ๆ ทั้งบอร์ดี้เพ้นต์ มวยไทย นวดไทย ทำอาหารไทย และนิทรรศการศิลปะจากหลากหลายศิลปิน รวมทั้งโซนเวิร์คชอปที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ที่นี่จึงถือเป็นโฮสเทลแห่งแรกในย่านอารีย์ที่ยั่วยวนให้เราอยากแปลงกายเป็นนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนสักวันสองวัน
สถานที่
The Yard hostel Bangkok
ซอยราชครู ซอยสามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ
โทร. 08-9677-4050, 08-9669-4101
www.theyardhostel.com
ขอบคุณ[mบทความจาก http://home.sanook.com/