อันที่จริงแล้วห้องครัวที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำทุกวันนั้น ควรได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และถ้าจะให้ดีถูกหลักอนามัยที่สุดก็คือ ต้องทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้ห้องนั้นๆ
จากผลสำรวจผู้ใหญ่จำนวน 20,000 คน เชื่อหรือไม่ว่ามีผู้ชาย 25% และผู้หญิงถึง 14 % ที่ไม่ล้างมือด้วยสบู่หลังจากทำอาหารที่จับต้องเนื้อสัตว์หรือเนื้อไก่ดิบ ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือมีคนมากถึง 3 ใน 10 คนที่ไม่ล้างมือก่อนอาหารและ 5 ใน 10 คนที่ไม่ล้างมือให้สะอาดหลังทานอาหารแล้ว แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามือของคนเราที่จับต้องสิ่งของ โดยเฉพาะเวลาทำครัวนั้นมีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกเล็บและเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียที่คุณมองไม่เห็น ดังนั้นการมีสุขอนามัยที่ดีจะช่วยป้องกันการติดเชื้อที่ร้ายแรงอย่างซัลโมเนลลาและอีโคไลที่ติดมาจากอาหารที่คุณทำแล้วไม่ล้างมือให้สะอาด
2. อย่ารอจนทำอาหารเสร็จแล้วค่อยทำความสะอาดเคาน์เตอร์และหน้าเตา
แต่ต้องทำความสะอาดพื้นที่ในครัวให้สะอาดตลอดเวลาที่คุณกำลังทำอาหารอยู่ เพราะของสดทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู ไก่ ปลาหรือไข่ล้วนเป็นแหล่งของเชื้อโรคทั้งสิ้น จึงต้องทำความสะอาดเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่มาจากของสดพวกนั้นที่ติดอยู่ตามพื้นที่ต่างในครัว
3. แยกเขียงที่ใช้หั่นของที่ยังไม่สุกกับของที่สุกแล้ว ไม่ให้ปะปนกัน
เนื้อสดทุกชนิดยังมีน้ำไหลออกมาตลอดเวลาโดยเฉพาะตอนที่คุณหั่นและมักเป็นแหล่งของเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงได้ ถ้าเป็นไปได้อย่าใช้เขียงไม้ เพราะเขียงไม้จะมีร่องรอยขูดขีดละมีร่องที่มาจากการใช้งานอันเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเหมือนกับซอกเล็บของเรานั่นเอง แค่คิดถึงจำนวนแบคทีเรียก็สยองแล้ว
4. ล้างผักผลไม้ให้แน่ใจว่าสะอาดก่อนหั่น
ล้างผักผลไม้และเช็ดให้สะอาด หั่นส่วนที่ช้ำหรือมีรอยถลอกขูดขีดออกไป เพราะนั่นคือแหล่งสะสมของแบคทีเรียเช่นกัน
5. ใช้ฟองน้ำที่เหมาะสมกับกระทะหรือหม้อแต่ละชนิด
เพราะถ้าคุณใช้ฟองน้ำที่ไม่เหมาะกับพื้นผิวของกระทะหรือหม้อนั้นๆ ก็จะทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวและนั่นคือแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียเหมือน