"ยาคุม" ตัวช่วยสำหรับการวางแผนครอบครัวของใครหลายๆ คนที่ยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร คู่รักหลายคู่เลือกใช้วิธีนี้เพราะเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ฝ่ายชายจะสามารถหลั่งใน หรือไม่ใช้ถุงยางอนามัยได้ แต่จริงๆ แล้วหากฝ่ายหญิงทานยาคุมไม่ถูกวิธี โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ยังมีเช่นกัน จึงเป็นเหตุให้หลายคู่ประสบปัญหา "กินยาคุมแล้ว ยังท้องได้" ข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นเมื่อเลือกทานยาคุมมีอะไรบ้าง นำข้อมูลจาก อย. หรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มาฝากกันค่ะ
____________________
กินยาคุมแล้ว ทำไมยังท้องได้?
สาเหตุหลักที่บางคนรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแล้ว แต่กลับตั้งครรภ์ เนื่องจาก.........
1. ลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ยิ่งหากลืมรับประทานในเม็ดที่มีฮอร์โมนอยู่แล้ว อาจทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเหวี่ยงหรือไม่สม่ำเสมอได้
2. รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดไม่ตรงเวลา ปกติให้รับประทานยาเวลาเดียวกันทุกวัน โดยแนะนำให้รับประทานช่วงก่อนนอนเพื่อลดผลข้างเคียง หากทานไม่ตรงเวลาอาจทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเหวี่ยงได้เช่นกัน
3. รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดร่วมกับยาปฏิชีวนะ จะไปลดการดูดซึมของยาเม็ดคุมกำเนิด (บางชนิด) หากรับประทานร่วมกัน จะทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดลดลงและอาจทำให้ท้องได้
4. รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดร่วมกับยาวัณโรคบางตัว หากรับประทานร่วมกันจะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของยาเม็ดคุมกำเนิดลดลง อาจทำให้ท้องได้
5. ยาเม็ดคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพไม่ถึง 100% ดังนั้นหากมีเพศสัมพันธ์และหลั่งใน โอกาสที่พลาดท้องก็มีได้ ถึงมีน้อยก็ใช่ว่าไม่มีเลย
*วิธีที่ปลอดภัยที่สุด คือ รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดพร้อมกับป้องกันด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ใส่ห่วงอนามัย หรือถุงยางอนามัย เป็นต้น
____________________
ขอบคุณเนื้อหาจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ภาพประกอบจาก istockphoto